อาหารเสริมต่าง ๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่คนในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกันอย่างมาก ทำให้มีการแข่งขันในวงการดังกล่าวมากมาย อันส่งผลให้ผู้บริโภคต้องพิจารณาคุณภาพของอาหารเสริมเหล่านั้นให้รอบครอบยิ่งกว่า โดยเฉพาะข้อมูลฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้อง ก็ถือเป็นข้อมูลอันดับแรก ๆ ที่จะช่วยให้เรารู้จักอาหารเสริมชนิดนั้น ๆ เพื่อนำไปวิเคราะห์ถึงคุณภาพและความปลอดภัย ในบทความนี้ Cosma Health จะพามาส่องรายละเอียดของฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องว่าควรมีอะไรบ้าง!
‘ฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้อง’ ควรมีรายละเอียดอะไรบ้าง?
การอ่านฉลากอาหารเสริมอย่างถูกต้องนั้นมีความสำคัญอย่างมากในการสนับสนุนให้เราทราบข้อมูลเบื้องต้นของอาหารเสริม ซึ่งจะช่วยบ่งบอกถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพของตัวสารอาหาร ส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ไปจนถึงปริมาณที่เหมาะสมซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยเบื้องต้นตามอ้างอิงคู่มือการขออนุญาตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากกองอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดอันต้องมีบนฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องเอาไว้ดังนี้
1. ชื่อผลิตภัณฑ์
มีอยู่ด้วยกันสองแบบคือชื่อตราสินค้า (Brand Name) และชื่อผลิตภัณฑ์ อันจะต้องมีการระบุอย่างชัดเจน ต้องเป็นชื่อมีตรงกับชื่อที่ได้รับการอนุญาตเอาไว้เท่านั้น ไม่สามารถใช้ชื่อที่เจตนากล่าวอ้างสรรพคุณ ต้องมีการระบุว่าเป็น ‘ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร’ รวมถึงต้องกำหนดให้ชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีความสอดคล้องกันด้วย
2. ชื่อและปริมาณของส่วนประกอบ
มีไว้เพื่อระบุรายชื่อส่วนประกอบทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ตามลำดับปริมาณจากมากไปน้อย โดยจะต้องระบุเป็นปริมาณต่อหนึ่งหน่วย (เม็ด/แคปซูล/ช้อนตวง) แสดงชื่อทางวิทยาศาสตร์ของสารประกอบสำคัญ
3. วัตถุเจือปน
อาหาร ยา หรืออาหารเสริมหลากหลายชนิดมักจมีวัตถุเจือปนบางอย่างอยู่เล็กน้อย เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์หรือสัมผัส ยกตัวอย่างเช่น สีสังเคราะห์ สีธรรมชาติ สารให้ความหวานแทนน้ำตาล วัตถุกันเสีย เป็นต้น ฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องจะมีการระบุเอาไว้เสมอว่าแต่งกลิ่น รส สี หรืออื่น ๆ เข้าไปในอาหารเสริมหรือไม่
4. ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร
อาหารเสริมชนิดที่มีส่วนประกอบเป็นสารอาหารที่มักพบอาการแพ้ได้บ่อย ๆ ได้แก่ ธัญพืช สัตว์ทะเล ไข่ ปลา ถั่วบางชนิด นม แลคโตส ซัลไฟต์มากกว่าหรือเท่ากับ 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จะต้องมีระบุเอาไว้อย่างชัดเจนจึงจะถือเป็นฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องและปลอดภัย
5. วิธีการรับประทาน
เป็นส่วนที่อาหารเสริมทุกชนิดต้องมี เพื่อแนะนำวิธีการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง โดยอาจประกอบไปด้วยปริมาณที่แนะนำต่อวัน และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทาน (ถ้ามี) อันจะเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทานอาหารเสริมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
6. ข้อควรระวัง
ฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องจะต้องแจ้งข้อควรระวังสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ผู้ที่กำลังรับประทานยาอื่น ๆ หรือผู้ที่แพ้อาหารบางชนิด (ดังที่กล่าวไปในข้อ 4) อาจเป็นรูปของคำเตือนหรือคำแนะนำตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข
7. คำเตือนหรือข้อความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
นอกเหนือจากข้อมูลที่กล่าวมา อาหารเสริมบางชนิดอาจจะต้องมีคำเตือนหรือข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบเป็นฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้อง โดยจะมีอยู่ด้วยกันหลากหลายข้อความ ขึ้นอยู่กับว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จำเป็นต้องระบุข้อมูลเหล่านี้หรือไม่ ยกตัวอย่างข้อความอื่น ๆ เช่น
-
- มีซองวัตถุกันชื้น
- เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
- ควรกินอาหารหลากหลาย ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ (ต้องมี)
- ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค (ต้องมี)
- คำแนะนำในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ (ถ้ามี)
- ฉลากโภชนาการ (ถ้ามี)
- เกษตรอินทรีย์, ออร์แกนิก, เกษตรธรรมชาติ (ต้องมีเครื่องหมายกำกับ)
- ภาพ…สื่อถึงกลิ่นรสเท่านั้น
- อาจเติมผลไม้เพื่อเพิ่มรสชาติ
8. เลขสารบบอาหาร
เป็นเลขทะเบียน 13 หลักที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เลข อย.) หากอาหารเสริมตัวนั้น ๆ มีเลขทะเบียนนี้กำกับแสดงว่าผลิตภัณฑ์ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยอาหารเสริมทุกชนิดต้องมีเลข อย. หากไม่มีอาจหมายถึงการจัดจำหน่ายอย่างผิดกฎหมาย
9. การกล่าวอ้างทางสุขภาพ
เป็นการกล่าวถึงสรรพคุณของตัวอาหารเสริมนั่นเอง ซึ่งผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์สามารถกำหนดมาเป็นตัวเลือก สำหรับยื่นขอประเมินการกล่าวอ้างทางสุขภาพแก่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยติดต่อเพื่อขอยื่นแบบประเมินได้ที่ หลักเกณฑ์และแนวทางการอนุญาตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
10. ปริมาณสุทธิ
(ตำแหน่งที่ 10) เป็นส่วนที่ใช้ระบุปริมาณสุทธิของผลิตภัณฑ์ตามระบบเมตริก โดยจะมีหลักในการระบุแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของอาหารเสริมนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น
แบบเม็ดหรือแคปซูล ระบุเป็น เม็ด/แคปซูล
แบบของเหลว ระบุเป็น ปริมาตรสุทธิ
แบบของแข็ง ระบุเป็น น้ำหนักสุทธิ
11. วันหมดอายุหรือวันที่ควรบริโภคก่อน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ดีจะต้องระบุวันหมดอายุหรือวันที่ควรบริโภคก่อนของผลิตภัณฑ์ โดยต้องแสดงเป็นวันที่ เดือน และปีเอาไว้บนฉลากอย่างชัดเจน หากเป็นอาหารเสริมที่พ้นวันดังกล่าวไปแล้วจะไม่สามารถนำมาจัดจำหน่ายได้ ข้อมูลส่วนนี้ยังเป็นตัวช่วยให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคทราบเกี่ยวกับเลข Lot No. ซึ่งสามารถร้องเรียน ขอคืนสินค้า หรือระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับสินค้าล็อตนั้น ๆ ได้ด้วย
12. ชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิต/ผู้นำเข้า
เป็นส่วนที่ช่วยระบุว่าอาหารเสริมดังกล่าวถูกผลิตขึ้นที่ใด โรงงานไหน โดยจะต้องระบุชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ผู้แบ่งบรรจุ หรือชื่อและที่ตั้งของสำนักงานที่เป็นผู้ผลิตก็ได้ โดยจะมีทั้งแบบในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะมีหลักการใช้คำที่แตกต่างกันคือ หากเป็นสินค้านำเข้าจะต้องระบุในฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องว่า ‘ผู้นำเข้า’ หรือ ‘นำเข้าโดย’
และ ข้อมูลการติดต่อ
จะเป็นการแจ้งช่องทางการติดต่อสำหรับผู้บริโภค เพื่อให้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้สะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้ มักจะรวมอยู่กับข้อมูลสถานที่ที่ผลิตหรือแหล่งที่ตั้งผู้ผลิตแล้ว ทว่าหากมีข้อมูลติดต่อร่วมด้วยก็จะอำนวยความสะดวกและความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์มากกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กองอาหาร, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
แนะนำ! วิธีเช็คฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจซื้อ
นอกจากจะทราบรายละเอียดที่ควรมีแล้ว วิธีการอ่านฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน เพราะการตรวจสอบที่เหมาะสมจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงอันตรายจากการทานอาหารเสริมได้ โดยจะมีวิธีเช็คดังนี้
1. ตรวจสอบเลขสารบบอาหารหรือเลข อย.
การตรวจสอบเลขสารบบอาหาร 13 หลักบนฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องนั้น ให้เทียบตัวเลขว่าตรงกับข้อมูลบนเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือไม่ เพราะอาหารเสริมบางเจ้าอาจจะมีการแอบอ้างเลขเอาไว้บนฉลากผ่านการปลอมแปลงต่าง ๆ เพื่อหลอกลวงผู้บริโภคได้
2. อ่านรายชื่อส่วนประกอบอย่างละเอียด
เราจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนประกอบทั้งหมดในผลิตภัณฑ์นั้นเป็นสารที่มีอยู่จริงหรือไม่และใส่มาในปริมาณเท่าใด ข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้เราทราบปริมาณที่ทานแล้วเห็นผลจริง ไม่ใช่ใส่มาในปริมาณเล็กน้อยจนไม่เห็นผล หรือใส่มาในปริมาณที่มากไปจนเป็นอันตรายต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว
3. เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน
การเปรียบเทียบฉลากของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลาย ๆ ชนิดหรือหลาย ๆ แบรนด์ก่อนตัดสินใจซื้อ จะช่วยให้เราเลือกอาหารเสริมที่เหมาะกับความต้องการของเราได้ดีขึ้น ซึ่งแต่ละแบรนด์จะตอบโจทย์เราได้ไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบที่ทำให้แพ้ ปริมาณส่วนผสม การแต่งสีแต่งกลิ่น คุณภาพของส่วนประกอบ ราคาที่สมเหตุสมผล เป็นต้น
4. ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรโดยตรง
การปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรว่าเป็นฉลากอาหารที่เสริมถูกต้องหรือไม่จะช่วยให้เราบรรลุการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่มีโรคประจำตัว กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร กำลังรับประทานยาอื่น ๆ หรือมีอาหารที่แพ้ ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถให้คำตอบเราได้ดีกว่าการเลือกเองในระดับหนึ่ง
ฉลากอาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐาน อันตรายยังไง?
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วฉลากอาหารเสริมที่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาตรฐานนั้นอันตรายอย่างไร Cosma Health ต้องขอแนะนำว่าการอ่านฉลากสินค้านั้นเป็นสิ่งที่หลายคนมักมองข้าม โดยไม่ทราบว่ามันสามารถก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงแก่สุขภาพของเราได้ โดยฉลากอาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐานหมายความถึงฉลากที่มีข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือเป็นเท็จ ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนี้
1. ได้รับสารอาหารไม่ถูกต้อง
ฉลากอาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐานอาจระบุปริมาณสารอาหารไม่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคอาจได้รับสารอาหารน้อยหรือมากเกินไป นอกจากนี้ ก็อาจมีการใส่สารอาหารที่ไม่ได้ระบุไว้บนฉลาก หรืออาจมีการใช้สารอาหารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2. เสี่ยงเกิดผลข้างเคียงหลายด้าน
หากฉลากอาหารเสริมนั้น ๆ ระบุข้อมูลไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ผู้บริโภคอาจจะไม่ทราบหรือไม่ได้สังเกต จนทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหลายด้าน ยกตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคแพ้สารบางชนิดในผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบเกิดปฏิกิริยากับยาที่ผู้บริโภคกำลังรับประทานอยู่ เป็นต้น
3. สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
สำหรับฉลากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ระบุส่วนประกอบหรือส่วนผสมอื่น ๆ ให้ชัดเจน ผู้บริโภคอาจเสียเงินซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรืออาหารเสริมนั้นมีราคาแพงเกินจริง ไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแลกกับส่วนผสมที่ไม่เห็นผลหรืออันตรายต่อร่างกาย
4. เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
การได้รับสารอาหารไม่ถูกต้องหรือสารอันตรายที่แอบแฝงอยู่ในอาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว อาจเกิดอาการป่วยเฉียบพลัน หรืออาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้

สรุป ความสำคัญของฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้อง
ฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้อง เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้อาหารเสริมได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย อันจะสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์และเจ้าของแบรนด์ในระยะยาว ดังนั้น ผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์ควรใส่ใจกับรายละเอียดของฉลากอาหารเสริมที่ถูกต้องตามกฎหมายและหลักปฏิบัติของ อย. เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ต่อไปในอนาคต